การเลือกแบบบ้าน เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการสร้างบ้าน เพราะจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบ ฟังก์ชันการใช้งาน และงบประมาณในการก่อสร้างให้แก่ศูนย์รับสร้างบ้าน ดังนั้นจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบและให้ความสำคัญกับปัจจัยหลายๆอย่าง เพื่อให้ได้แบบบ้านที่ศูนย์รับสร้างบ้านจะสร้างออกมาได้ตรงใจและเหมาะสมที่สุด โดยควรพิจารณาการเลือกแบบบ้านจากปัจจัยต่างๆดังต่อไปนี้

1. พิจารณาขนาดพื้นที่และขนาดที่ดิน

ขั้นตอนแรกคือการประเมินขนาดพื้นที่และขนาดที่ดินที่มีอยู่ เพื่อเลือกแบบบ้านที่พอดีและเหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งทำให้บ้านไม่เล็กเกินไปจนคับแคบ หรือใหญ่เกินไปจนเกินกำลังทรัพย์

นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงรูปทรงของที่ดินด้วย โดยหากที่ดินหน้าแคบ ควรเลือกแบบบ้านที่มีรูปทรงตัว L หรือตัว U เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยและลดการสูญเสียพื้นที่

2. กำหนดจำนวนสมาชิกในครอบครัวและฟังก์ชันการใช้งาน

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการกำหนดจำนวนสมาชิกในครอบครัวและฟังก์ชันการใช้งานที่ต้องการ เพื่อให้ได้แบบบ้านที่มีจำนวนห้องนอนและห้องน้ำที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิก รวมถึงพื้นที่ใช้สอยสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องทำงาน และห้องนอนสำหรับแขก เป็นต้น

3. พิจารณาไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย

ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยก็ควรนำมาพิจารณาในการเลือกแบบบ้านด้วยเช่นกัน เช่น หากมีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็กในบ้าน ควรเลือกแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และสะดวกในการเดินหรือเคลื่อนที่ แต่หากชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกแบบบ้านที่มีพื้นที่รอบบ้านกว้างขวางสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น สวน สระว่ายน้ำ เป็นต้น

4. ศึกษากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

ก่อนเลือกแบบบ้าน ควรศึกษากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน เป็นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าแบบบ้านที่เลือกนั้นเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับ ซึ่งในข้อนี้ ศูนย์รับ สร้างบ้าน สามารถให้คำแนะนำได้

5. เปรียบเทียบราคาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

นอกจากความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานแล้ว ค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน จึงควรเปรียบเทียบราคาและค่าใช้จ่ายต่างๆของแบบบ้านแต่ละแบบอย่างรอบคอบ รวมทั้งราคาของศูนย์รับสร้าง บ้าน แต่ละแห่งด้วย เพื่อเลือกแบบบ้านที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณ

เทคนิคการเลือกแบบบ้านให้ตรงใจ

นอกจากการพิจารณาปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเทคนิคการเลือกแบบบ้านให้ตรงใจเพิ่มเติม ดังนี้

  • ควรสำรวจแบบบ้านจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ นิตยสาร หรือบริษัทรับสร้างบ้าน เพื่อเปรียบเทียบแบบบ้านและเลือกแบบบ้านที่ชอบและเหมาะสมที่สุด
  • ปรึกษาผู้มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างบ้าน เพื่อให้คำแนะนำและช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของแบบบ้าน
  • ทดลองอยู่อาศัยแบบบ้านจำลอง เพื่อสัมผัสบรรยากาศและการใช้งานจริงของแบบบ้าน

การเลือกแบบบ้านเป็นขั้นตอนที่สำคัญและใช้เวลาในการคิดและตัดสินใจ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แบบบ้านที่ตรงใจและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด