หลาย ๆ คนที่เริ่มทำงานแล้วหรือทำงานไปได้สักพักคงจะเริ่มมีความคิดกันแล้วว่าเราควรจะซื้อบ้านหรือว่าควรจะซื้อรถก่อนดี จริง ๆ แล้วคำถามนี้เกิดขึ้นได้ตลอดเพราะคนที่ทำงานมีเงินเก็บส่วนมากแล้วก็มักจะมีความต้องการที่จะมีสินทรัพย์หรือทรัพย์สินเป็นของตัวเองกันทั้งสิ้น ซึ่งระหว่างการเลือกซื้อบ้านหรือรถแบบไหนก่อนนั้นอาจจะไม่มีสูตรตายตัวแต่อยู่ที่ความต้องการหรือความพร้อมในการดำเนินชีวิตของแต่ละคน อย่างเช่นบางคนทำงานไกลมากอาจจะมีความจำเป็นในการซื้อรถก่อนบ้าน แต่ในขณะที่อีกคนทำงานใกล้บ้านมากแต่ยังไม่ได้เป็นบ้านของตัวเองเป็นเพียงห้องเช่าเท่านั้น ก็อาจจะเลือกที่จะซื้อบ้านก่อนก็ไม่ผิดอะไร แต่หากให้แนะนำในมุมมองส่วนตัวแล้วเราควรเลือกซื้อบ้านก่อนการซื้อรถเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ซึ่งทำไมถึงคิดแบบนั้นเรามาดูกันเลย
แล้วทำไมมนุษย์เงินเดือนถึงควรซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้านล่ะ ?
เหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนถึงควรซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน มีทั้งหมด 3 เหตุผลด้วยกัน คือ
- เหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนถึงควรซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน คือ ในด้านของการผ่อนชำระนั้นระยะเวลาในการผ่อนบ้านจะนานกว่ารถ และนอกจากนั้นบ้านถ้าเรามีเงินก้อนหรือมีเงินที่มากขึ้นก็สามารถนำมาโปะบ้านและช่วยลดดอกเบี้ยลงได้พอสมควร กลับกันหากเป็นรถยนต์แล้วนั้นระยะเวลาในการผ่อนน้อยกว่าก็จริงแต่ว่าอัตราดอกเบี้ยของรถนั้นจะเป็นอัตราแบบคงที่ ถึงแม้เราจะมีเงินก้อนมาโปะแต่ดอกเบี้ยก็ไม่ลดลงก็ต้องจ่ายเท่าเดิมตามจำนวนระยะเวลาที่ได้ถูกคำนวณไว้แล้ว
- เหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนถึงควรซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน คือ ในด้านของการยื่นกู้ต่อสถาบันการเงินนั้น หากอายุยังน้อยก็สามารถที่จะกู้ได้นานและยอดมากกว่าผู้ที่มีอายุมาก ส่วนรถยนต์นั้นอายุของผู้ซื้อไม่มีผลที่แตกต่างกันมากนัก
และเหตุผลที่มนุษย์เงินเดือนถึงควรซื้อรถยนต์ก่อนซื้อบ้าน คือ คุณภาพของบ้านและรถยนต์ก็แตกต่างกันออกไป หากเป็นรถยนต์นั้นในการซื้อมานอกจากจะต้องมีค่าบำรุงรักษารถแล้วนั้นยังมีค่าใช้จ่ายหนึ่งอย่างที่สำคัญ นั่นคือค่าประกันภัยรถยนต์ เพราะรถยนต์นั้นหากไม่มีการทำประกันภัยรถยนต์ แล้วเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายขึ้นเราอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากมายทีเดียว ดังนั้นประกันภัยรถยนต์จึงสำคัญมากสำหรับคนซื้อรถ แล้วต้องจ่ายชำระค่าเบี้ยประกันทุก ๆ ปี ส่วนบ้านนั้นหากเราซื้อแล้วตกแต่งเรียบร้อยก็อาจมีค่าบำรุงซ่อมแซมเล็กน้อยไม่มากเหมือนรถยนต์นั่นเอง